Blog page why our clients love to work with us.
ดาวเคราะห์คล้ายโลกที่เอื้อต่อสิ่งมีชีวิต
ดาวเคราะห์อย่างน้อย 2 ดวง ที่มีการค้นพบใหม่ในระบบสุริยะ “แทรปปิสต์-วัน” (Trappist-1) เมื่อปีที่แล้ว มีความเป็นไปได้ว่าจะมีสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตอย่างสูง โดยคาดว่าบนดาวเคราะห์ดังกล่าวจะมีทั้งน้ำและความร้อนใต้พิภพอย่างเพียงพอ ดร. เอมี บาร์ จากสถาบันวิทยาศาสตร์ด้านการศึกษาดาวเคราะห์ (PSI) ในสหรัฐฯ และคณะ ใช้ข้อมูลที่มีอยู่ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือนาซา สร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่ช่วยทำนายลักษณะทางกายภาพบนดาวเคราะห์ทั้ง 7 ดวงที่โคจรรอบดาวฤกษ์แทรปปิสต์-วันอยู่ และพบว่าในจำนวนนั้น 2 ดวงคือดาวเคราะห์ d และ e มีสภาพที่เอื้อต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตมากที่สุด จะมีการตีพิมพ์ผลการศึกษาดังกล่าวในวารสาร Astronomy & Astrophysics ในเร็ว ๆ นี้ โดยผู้วิจัยพบว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ดาวเคราะห์ 6 ใน 7 ดวงจะมีน้ำในรูปของเหลวหรือของแข็งอยู่ นอกจากนี้ วงโคจรของดาวเคราะห์ที่เป็นวงรีซึ่งตั้งอยู่ในระยะไม่ห่างจากดาวฤกษ์ศูนย์กลางนัก ยังทำให้เกิดความร้อนจากแรงไทดัล (Tidal heat) ขึ้นภายใต้พื้นผิวที่เป็นหินแข็งของดาวเคราะห์ในระบบทุกดวงอีกด้วย ดร.บาร์อธิบายว่า “แรงดึงดูดจากดาวฤกษ์ศูนย์กลางที่กระทำต่อพื้นที่ส่วนต่าง ๆ บนดาวเคราะห์ไม่เท่ากัน ทำให้เกิดแรงไทดัลที่ทั้งบีบอัดและดึงขยายมวลของดาวเคราะห์ดังกล่าวเป็นระยะ ซึ่งทำให้เกิดการไหลเวียนของหินหลอมเหลวและความร้อนใต้พิภพตามมา คล้ายกับดวงจันทร์ไอโอของดาวพฤหัสบดีที่พื้นผิวเต็มไปด้วยภูเขาไฟปะทุและธารลาวา” ความร้อนใต้พิภพและน้ำถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญต่อการกำเนิดและดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตบนโลก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์หวังว่าเงื่อนไขที่คล้ายกันจะทำให้ดาวเคราะห์ในระบบแทรปปิสต์-วัน
Read moreไดโนเสาร์ขยายอาณาเขตได้ดีเกินไปจนสายพันธุ์ใหม่น้อยลง
ผลการศึกษาล่าสุดซึ่งทำแผนที่แสดงข้อมูลการแพร่พันธุ์ของไดโนเสาร์ จากถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ออกไปยังทั่วทุกมุมโลกชี้ว่า การแพร่กระจายประชากรและการขยายอาณาเขตที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งของพวกมัน กลับเป็นสาเหตุที่ทำให้ไดโนเสาร์เกิดสายพันธุ์ใหม่น้อยลงและมีจำนวนประชากรลดต่ำ ตั้งแต่ก่อนที่อุกกาบาตยักษ์จะพุ่งชนโลกเมื่อ 66 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งทำให้พวกมันสูญพันธุ์ไปในที่สุด ผลการศึกษาดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสาร Nature Ecology and Evolution โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติที่นอกเหนือไปจากการศึกษาซากฟอสซิล ทำให้พบว่าเผ่าพันธุ์ไดโนเสาร์นั้นประสบกับภาวะเสื่อมถอยมาตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุอุกกาบาตยักษ์พุ่งชนโลกนานแล้ว ดร.คริส เวนดิตติ จากมหาวิทยาลัยเรดดิงของสหราชอาณาจักร ผู้เขียนร่วมของรายงานวิจัยดังกล่าวชี้ว่า เผ่าพันธุ์ไดโนเสาร์ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ได้ถือกำเนิดและแพร่กระจายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว โดยอาศัยโอกาสที่โลกว่างจากสัตว์คู่แข่งชนิดอื่น ๆ หลังการสูญพันธุ์ครั้งสำคัญที่เรียกว่า “การล้มตายครั้งใหญ่” (Great Dying) เมื่อปลายยุคเพอร์เมียน-ไทรแอสซิก ราว 251 ล้านปีก่อน การที่ไดโนเสาร์ไม่มีคู่แข่งในการแย่งชิงอาหาร ทรัพยากร รวมทั้งอาณาเขตอันกว้างใหญ่ ทำให้พวกมันแพร่พันธุ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและออกครอบครองพื้นที่ทั่วทุกมุมโลก แต่ก็ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ไดโนเสาร์ในยุคหลังไม่สามารถอพยพย้ายถิ่นได้อีก ทั้งแต่ละกลุ่มก็มีความคุ้นเคยกับที่อยู่อาศัยเฉพาะของตนมากเกินไป จนขาดการปรับตัวที่นำไปสู่การเกิดสายพันธุ์ใหม่ เว้นแต่ไดโนเสาร์จำพวกที่บินได้ ซึ่งกลายมาเป็นบรรพบุรุษของนกในทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีนักวิทยาศาสตร์บางส่วนไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว เช่น ศาสตราจารย์เดวิด มาร์ทิลล์ แห่งมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธบอกว่า “ไดโนเสาร์มีความหลากหลายของสายพันธุ์สูงตลอดยุคครีเทเชียส แม้แต่ในช่วงที่ผืนทวีปต่าง ๆ เริ่มแตกแยกออกเป็นผืนแผ่นดินขนาดเล็กลง ทั้งมีหลักฐานยืนยันว่าไดโนเสาร์ยังคงมีความหลากหลายอยู่ในปลายยุคครีเทเชียส ก่อนที่อุกกาบาตยักษ์จะพุ่งชนโลกไม่นาน” ที่มา
Read moreSamsung ปล่อยทีเซอร์ Galaxy S9 ตวามยาว 15 วิ
Samsung Mobile Korea ได้อัปโหลดทีเซอร์ของ Galaxy S9 ในช่อง YouTube อย่างเป็นทางการ โดยงานนี้สามารถวิเคราะห์ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่จะถูกเพิ่มเข้ามาในเรือธงรุ่นล่าสุดซึ่งคาดว่าจะเน้นไปที่กล้องเป็นหลักครับ ฟีเจอร์ที่คาดว่าจะมีใหม่ รองรับการถ่ายวิดีโอ Slo-mo รองรับการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยมากๆ มาพร้อมฟีเจอร์ Animoji 3D แบบ iPhone X อีกไม่นาน Samsung ก็จะเปิดตัว Galaxy S9 ปลายเดือนนี้แล้ว รอติดตามชมกันได้เลย แบไต๋ไม่พลาดรายงานให้ทราบแน่นอนครับ ที่มา – https://www.beartai.com/news/mobilenews/221992 VIEW MORE
Read moreไขปริศนาลิ้นของฮัมมิงเบิร์ดขณะกินน้ำหวาน
ฮัมมิงเบิร์ด เป็นนกที่ว่องไวมาก มันกระพือปีกได้อย่างรวดเร็ว (สูงสุด 80 ครั้งต่อวินาที) ทำให้ มันลอยตัวกินน้ำหวานจากดอกไม้ได้ นักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯ ได้ถ่ายคลิปขณะที่มันกำลังดูดกินน้ำหวานเพื่อศึกษาว่า มันใช้ลิ้นทำงานอย่างไร? ผู้คนเข้าใจว่า มันนำน้ำหวานเข้าสู่จงอยปาก ด้วยวิธีการซึมผ่านรูขนาดเล็ก (capillary action) เหมือนกับการใช้หลอดขนาดเล็ก ดูดน้ำโดยไม่ต้องใช้แรงดูด แต่อเลฮานโดร ริโก-เกวารา นักชีววิทยาจาก ม.คอนเนตทิคัต พิสูจน์ว่าทฤษฎนี้ไม่เป็นจริง เขาสร้างดอกไม้ที่ทำจากแก้วเพื่อ ถ่ายคลิปขณะที่ฮัมมิงเบิร์ดกำลังกินน้ำหวาน เขาพบว่า ลิ้นของฮัมมิงเบิร์ด ขณะกินน้ำหวานมีการสะบัดเข้าออก 15 ครั้งต่อวินาที ลิ้นของมันเป็น 2 แฉกเหมือนลิ้นงู ซึ่งจะทำให้น้ำหวานไหลเข้าไปอยู่ที่ 2 จุดในจงอยปาก มันทำหน้าที่เหมือนกับ ปั๊มน้ำ อย่างหนึ่ง เมื่ออยู่ในจงอยปาก ลิ้น 2 แฉกจะถูกบีบอัดไว้ และยังอยู่ติดกันเมื่อแลบลิ้นออกมา แต่เมื่อลิ้นของมันสัมผัสกับน้ำหวาน ลิ้นจะแยกเป็น 2 แฉก ทำให้ดูดน้ำหวานเข้าปากได้มากขึ้น เมื่อดูดน้ำหวานเสร็จ ลิ้นจะกลับไปอยู่ในท่อของแต่ละแฉก ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำหวาน ริโก-เกวารา บอกกับบีบีซีว่า
Read more