Blog page why our clients love to work with us.
เบ๊น+โบ๊ท School Visit
นักเรียนชั้น ป.1-ป.3 ร่วมกิจกรรม “เบ๊น+โบ๊ท School Visit” โดยมีการแสดงหุ่นเวทีสื่อการสอน เกมสนุกสนาน พร้อมสาระความรู้ เพื่อส่งเสริมสังคม เน้นสอนจริยธรรม และคุณธรรม เมื่อวันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน 2560 ณ หอประชุมซาวีโอ VIEW MORE PHOTOS
Read more“S.D. FAMILY RALLY THE MASK 2017”
โรงเรียนเซนต์ดอมินิก จัดการแข่งขัน S.D. FAMILY RALLY THE MASK 2017 เส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่ ระหว่างวันเสาร์ที่ 18 ถึงวันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2560 ครั้งนี้มีทีมเข้าแข่งขัน 95 ทีม ซึ่งแต่ละทีมได้สัมผัสกับธรรมชาติจากการเดินทาง เพลิดเพลินกับกิจกรรมแต่ละฐาน และเกมหรรษา จากนั้น เป็นช่วงงานเลี้ยงสังสรรค์อาหารค่ำที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานภายใต้บรรยากาศครอบครัว นำทีมโดยพิธีกรชื่อดัง “ดีเจพล่ากุ้ง” สำหรับกิจกรรมบนเวทีประกอบด้วย การประกวดแต่งกาย The Mask [email protected]. พร้อมทั้งลุ้นรับรางวัลพิเศษมากมาย ณ Balios Resort Khaoyai จังหวัดนครราชสีมา VIEW MORE PHOTOS
Read moreนักเรียนชั้น ม.1 ทัศนศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม นำนักเรียนชั้น ม.1 ไปทัศนศึกษาหมู่บ้านโปรตุเกส วัดไชยวัฒนาราม และตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน 2560 VIEW MORE PHOTOS
Read moreแค่หยุดกินกาแฟก็ซื้อ iPhone X ได้สบายๆ!
หลายๆ คนเมื่อเห็นราคาของ iPhone X ก็อาจจะร้องไม่ออกเมื่อราคาเริ่มต้นนั้นอยู่ที่ $999 ในขณะที่รุ่นท็อปนั้นสูงถึง $1,149 ซึ่งเป็นราคาที่ทำให้หลายๆ คนไม่กล้าซื้อเนื่องจากกว่าจะหาเงินมาได้ ซื้อปุ๊บเงินก็หายแว็บไปกับตา อย่างไรก็ตาม Tim Cook ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างวันแรกที่เปิดจำหน่าย iPhone X ใน Apple Store สาขา Palo Alto ว่าราคาของ iPhone X ก็เท่ากับการซื้อกาแฟดีๆ ในแต่ละวันหรือแค่หยุดกินกาแฟแล้วเปลี่ยนมาซื้อ iPhone X เท่านั้นเอง! นอกจากนี้ Apple ก็มีโปรแกรมที่ให้ผู้ใช้งานนำ iPhone เครื่องเก่ามาเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ได้ในราคาสูงถึง $350 งานนี้ CEO ถึงกับชี้ทางให้ ใครที่เข้า Starbucks วันละครั้งหรือมากกว่าวันละครั้ง เพียงแค่หยุดเข้าก็สามารถซื้อ iPhone X ได้แล้วนะ ถ้าคิดง่ายๆ iPhone X หนึ่งเครื่องราคา 40,500 บาท (ราคาไทย)
Read moreหินจาก“ชิกซูลุบ”เผยข้อมูลใหม่ฤดูหนาวล้างเผ่าพันธุ์ไดโนเสาร์
คณะนักธรณีฟิสิกส์นานาชาติ ผู้ขุดเจาะชั้นหินของหลุมอุกกาบาตชิกซูลุบ (Chicxulub) ซึ่งจมอยู่ใต้อ่าวเม็กซิโก เผยถึงผลการศึกษาใหม่เกี่ยวกับฤดูหนาวอันยาวนานที่ไดโนเสาร์ต้องเผชิญ หลังอุกกาบาตยักษ์พุ่งชนโลกเมื่อ 66 ล้านปีก่อน และทำให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิตบนโลก ผลการวิเคราะห์ชั้นหินที่ขุดเจาะขึ้นมาชี้ว่า อุกกาบาตยักษ์ความกว้าง 12 กิโลเมตร พุ่งเข้าหาจุดปะทะจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 18 กิโลเมตรต่อวินาที และพุ่งชนพื้นโลกที่บริเวณทะเลตื้นโดยทำมุม 60 องศา ทำให้เกิดหลุมลึกในชั่วพริบตา เนื่องจากหินและแร่ธาตุปริมาณหลายล้านล้านตันระเหยเป็นไอขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ในบรรดาหินที่ระเหยเป็นไอนี้ มีแร่ธาตุอย่างยิปซัมและแอนไฮไดรต์ ซึ่งมีกำมะถันเป็นส่วนประกอบปะปนอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ก็ยังมีแร่ธาตุจำพวกคาร์บอเนต ที่ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นอีกจำนวนมากด้วย ไอระเหยของแร่ธาตุเหล่านี้ พุ่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศด้วยความเร็วสูง โดยมีกำมะถันราว 325 กิกะตัน และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ราว 425 กิกะตันรวมอยู่ด้วย แม้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกและอุณหภูมิที่สูงขึ้นในระยะยาว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทันทีคือไอกำมะถันซึ่งผสมกับฝุ่นควัน ได้ทำให้อากาศเย็นลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง ศาสตราจารย์โจอันนา มอร์แกน นักธรณีฟิสิกส์ผู้นำทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ในสหราชอาณาจักรบอกว่า ก่อนหน้านี้มีงานวิจัยที่ใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์คำนวณผลของสภาพอากาศที่เกิดขึ้น หากมีไอกำมะถัน 100 กิกะตัน และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1,400 กิกะตัน ฟุ้งกระจายขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโลก โดยพบว่าสภาพการณ์เช่นนี้จะทำให้ค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิอากาศที่พื้นผิวโลกทั้งปี ลดลงอย่างน้อย 26 องศาเซลเซียส
Read moreช่องว่างปริศนาในพีระมิดกีซาคือห้องลับแห่งใหม่แน่หรือ ?
ข่าวการค้นพบช่องว่างปริศนาขนาดใหญ่เท่าเครื่องบินพาณิชย์ ในมหาพีระมิดแห่งเมืองกีซาของอียิปต์ สร้างความฮือฮาอย่างมากแก่วงการวิทยาศาสตร์และโบราณคดี โดยหลายคนคาดว่าอาจเป็นการค้นพบห้องลับแห่งใหม่ที่เก่าแก่กว่า 4,500 ปี นอกเหนือไปจากห้องเก็บพระศพฟาโรห์คูฟูและพระมเหสีที่ค้นพบก่อนหน้านี้แล้ว 2 ห้อง ช่องว่างดังกล่าวตั้งอยู่เหนือบริเวณห้องโถงใหญ่ภายในพีระมิดที่เรียกว่า แกรนด์ แกลเลอรี (Grand gallery) และดูเหมือนว่าจะไม่มีช่องทางเข้าถึงได้จากภายนอก โดยประมาณการว่ามีความกว้างราว 30 เมตรและสูงหลายเมตร คณะผู้ค้นพบยังไม่แน่ใจว่าช่องว่างนี้มีลักษณะการวางตัวอยู่ในแนวราบหรือลาดเอียง ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติในโครงการ “สแกนพีระมิด” (ScanPyramids) ซึ่งนำโดยนายคุนิฮิโระ โมริชิมะ จากมหาวิทยาลัยนาโงยาของญี่ปุ่น ใช้เวลาศึกษาโครงสร้างของมหาพีระมิดแห่งกีซา 2 ปี และตีพิมพ์ผลงานลงเผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ โดยระบุว่าใช้วิธีสแกนโครงสร้างภายในของพีระมิดแบบ “มิวโอกราฟี” (Muography) หรือการสร้างภาพด้วยอนุภาคมิวออน โดยไม่จำเป็นต้องแตะต้องหรือเคลื่อนย้ายหิน ซึ่งเสี่ยงสร้างความเสียหายให้แก่ตัวพีระมิดเลยแม้แต่น้อย มิวออน (Muons ) คืออนุภาคพลังงานสูงที่เกิดขึ้นเมื่อรังสีคอสมิกจากอวกาศปะทะเข้ากับชั้นบรรยากาศโลก อนุภาคมิวออนสามารถทะลุทะลวงผ่านก้อนหินหนา แต่จะถูกดูดซับเอาไว้ในก้อนหินได้บ้าง คิดเป็นสัดส่วนมากน้อยตามความหนาแน่นของหินที่ต่างกันไป ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถติดตั้งเครื่องตรวจจับอนุภาคมิวออนไว้โดยรอบพีระมิด เพื่อดูว่ามีปริมาณของมิวออนที่ทะลุทะลวงก้อนหินออกมาเท่าใดในแต่ละจุด ซึ่งเมื่อนำข้อมูลมาทำแผนที่ประกอบกันแล้วจะช่วยให้ทราบถึงลักษณะของโครงสร้างในส่วนต่าง ๆ ของพีระมิดได้ ช่องว่างแห่งนั้นสำคัญไฉน ? มหาพีระมิดเมืองกีซาสร้างขึ้นในสมัยของฟาโรห์คูฟู ระหว่าง 2509-2483 ปีก่อนคริสตกาลเพื่อใช้เก็บพระศพ มีความสูง
Read more